วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation)

ชื่อ น.ส.ลิลาวรรณ สกุล สุขโข  เลขที่ 28 ห้อง ม.5/10
กลุ่มที่ 2
ปัญหาที่นักเรียนศึกษา ค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่น

ที่มาและความสำคัญของปัญหา

 ปัจจุบันเยาวชนอยู่ในสังคมที่เน้นเชิงทุนนิยมและวัตถุนิยมมากขึ้น ทำให้สุขภาพจิตแย่ลง ขณะเดียวกันสังคมรากฐาน คือ ครอบครัว ซึ่งเป็นสังคมหน่วยเล็กที่สุด ก็พบว่ามีปัญหามากขึ้น เพราะพ่อ แม่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก เครียดกับการเรียนของลูกและการสอบแข่งขันต่างๆ ทำให้วัยรุ่นมีค่านิยมที่ผิดในทางด้านต่างๆมากมาย จึงขาดการอบรมที่ดี มีความเชื่อและหลงไปตามกับค่านิยมที่ผิดเพราะไม่ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ดีพอ
             ดังนั้นดิฉันจึงได้สำรวจ  รวบรวมข้อมูล   และนำเสนอผ่านสื่อด้วยหนังสั้นแฝงแนวคิดและช่วยปลูกจิตสำนึก  เพื่อช่วยให้วัยรุ่นมีความรู้และเข้าใจในค่านิยมของสังคมมากขึ้น

วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาปัญหา ค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่น
2.เพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างภาพยนต์สั้น/สารคดี

ผลการศึกษา 
   ค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่นสมัยนี้ มีส่วนเกิดมาจากการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว และให้สื่อต่างๆเข้ามามีอิทธิพลต่อตัวลูก ลูกจึงมีค่านิยมที่เลียนแบบดาราหรือผู้ที่มีอิทธิพลในสื่อเช่นการแต่งตัว การใช้ของแบรนด์เนม การทานยาเสริมความงาม ใช้สารเสพติด การมีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัยอันควร ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากดาราก็ได้รับการยอมรับจากสังคมสูงๆ
   กลุ่มของดิฉันได้นำเสนอปัญหาเหล่านี้ผ่านทางภาพยนตร์สั้นเพราะภาพยนตร์สั้นคือการเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียงที่มีประเด็นเดียวสั้น ๆ แต่ได้ใจความที่แฝงแง่คิด แง่มุม ทำให้ดูว่าไม่น่าเบื่อเกินไป  สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ทุนสูง 

เสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
-พ่อแม่ควรเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว 
-กล้าที่จะสอนลูกเช่นการมีเพศสัมพันธ์ว่าคืออะไร หากมีไปแล้วเกิดอะไรตามมา และควรป้องกันอย่างไร ไม่ควรอายที่สอนเรื่องแบบนี้ให้แก่ลูก 
-อย่าไปขัดขวางความคิดของลูกเพราะจะทำให้ลูฏไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ ทำให้ลูกอยากรู้อยากลองด้วยตนเอง  
-สื่อควรนำเสนอค่านิยมที่ถูกต้องหรือนำเสนอผลกระทบที่เกิดขึ้นหากทำตัวแบบค่านิยมที่ผิดเช่นการโดนข่มขืนจากการแต่งตัวโป๊  การท้องในวัยเรียนจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในวัยเรียน เพื่อในวัยรุ่นหรือวัยเด็กดูแล้วคิดขึ้นได้ว่าถ้าทำตัวแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น

นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเรียนวิชา IS1
-การทำงานกลุ่มอย่างเป็นระบบ
-การสร้างแบบสอบถามออนไลน์เพื่อสะดวกต่อการจัดเก็บ ประมวลผล และการนำเสนอ
-การใช้โปรแกรมต่างๆของGoogleเช่นไดร์ฟที่ใช้ในการจัดเก็บงาน  DocในGoogleที่สามรถแก้ไขเอกสารแบบออนไลน์ แชร์ในคนอื่นสามารถดูได้ หรือแชร์ในคนในกลุ่มแก้ไขงานได้โดยไม่ต้องใช้แฟลชไดร์ฟ
-การทำเว็บบล็อกให้สามารถไปหน้าของคนในกลุ่ม การใส่บทความ หรือเพิ่มลิงก์ไว้ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาอ่านได้อย่างเป็นหมวดหมู่
-มุมกล้องที่ใช้ในการถ่ายทำหนังสั้น
-การใช้โปรแกรมตัดต่อหนังสั้น
-การเขียนบทถ่ายทำให้ง่ายต่อการถ่ายและการตัดต่อ

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ตัวอย่างหนังสั้น ค่านิยมของวัยรุ่น



ตัวอย่างการเขียน STORY BOARD


ตัวอย่างหนังสั้นค่านิยมของวัยรุ่น


ตัวอย่างการเขียน STORY BOARD







การเขียน STORY BOARD


การเขียนสตอรี่บอร์ด (Storyboard)
                 ความหมายของสตอรี่บอร์ด (Story Board)
               สตอรี่บอร์ด (Story Board) คือ การเขียนกรอบแสดงเรื่องราวที่สมบูรณ์ของภาพยนตร์หรือหนังแต่ละเรื่อง โดยมีการแสดงรายละเอียดที่จะปรากฏในแต่ละฉากหรือแต่ละหน้าจอ เช่น ข้อความ ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียงดนตรี เสียงพูดและแต่ละอย่างนั้นมีลำดับของการปรากฏว่าอะไรจะปรากฏขึ้นก่อน-หลัง อะไรจะปรากฏพร้อมกัน เป็นการออกแบบอย่างละเอียดในแต่ละหน้าจอก่อนที่จะลงมือสร้างเอนิเมชันหรือ หนังขึ้นมาจริงๆ
• Storyboard คือ การสร้างภาพให้เห็นลำดับขั้นตอนตามเนื้อเรื่องที่ต้องการ โดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหว
• รายละเอียดที่ควรมีใน Storyboard ได้แก่ คำอธิบายแต่ละสื่อที่ใช้ (ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง วีดิโอ)
หลักการเขียนสตอรี่บอร์ด
          รูปแบบของสตอรี่บอร์ด จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนภาพกับส่วนเสียง โดยปกติการเขียนสตอรี่บอร์ด ก็จะวาดภาพในกรอบสี่เหลี่ยม ต่อด้วยการเขียนบทบรรยายภาพหรือบทการสนทนา และส่วนสุดท้ายคือการใส่เสียงซึ่งอาจจะประกอบด้วยเสียงสนทนา เสียงบรรเลง และเสียงประกอบต่างๆ

สิ่งสำคัญที่อยู่ภายในสตอรี่บอร์ด ประกอบด้วย
- ตัวละครหรือฉาก ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่หรือตัวการ์ตูน และที่สำคัญ คือ พวกเขากำลังเคลื่อนไหวอย่างไร
- มุมกล้อง ทั้งในเรื่องของขนาดภาพ มุมภาพและการเคลื่อนกล้อง
- เสียงการพูดกันระหว่างตัวละคร  มีเสียงประกอบหรือเสียงดนตรีอย่างไร

ข้อดีของการทำ Story Board
1. ช่วยให้เนื้อเรื่องลื่นไหล เพราะได้อ่านทวนตั้งแต่ต้นจนจบก่อนจะลงมือวาดจริง
2. ช่วยให้เนื้อเรื่องไม่ออกทะเล เพราะมีแผนการวาดกำกับไว้หมดแล้ว
                        3. ช่วยกะปริมาณบทพูดให้พอดีและเหมาะสมกับหน้ากระดาษและบอลลูนนั้น ๆ
                        4. ช่วยให้สามารถวาดจบได้ในจำนวนหน้าที่กำหนด (สำคัญสุด!)


ขั้นตอนการทำ Story Board
1.วางโครงเรื่องหลัก ไม่ว่าจะเป็น Theme, ตัวละครหลัก, ฉาก ฯลฯ
    1.1  แนวเรื่อง
    1.2  ฉาก
    1.3  เนื้อเรื่องย่อ
    1.4  Theme/แก่น (ข้อคิด/สิ่งที่ต้องการจะสื่อ)
    1.5  ตัวละคร  สิ่งสำคัญคือกำหนดรูปลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัวให้โดดเด่นไม่คล้ายกันจนเกิน ไป ควรออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครให้โดดเด่นแตกต่างกัน และมองแล้วสามารถสื่อถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้ทันที
 2.  ลำดับเหตุการณ์คร่าว ๆ
จุดสำคัญคือ ทุกเหตุการณ์จะเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน เหตุการณ์ก่อนหน้าจะทำให้เหตุการณ์ต่อมามีน้ำหนักมากขึ้น และต้องหา จุด Climax ของเรื่องให้ได้ จุดนี้จะเป็นจุดที่น่าตื่นเต้นที่สุดก่อนที่จะเฉลยปมทุกอย่างในเรื่อง การสร้างปมให้ผู้อ่านสงสัยก็เป็นจุดสำคัญในการสร้างเรื่อง ปมจะทำให้ผู้อ่านเกิดคำถามในใจและคาดเดาเนื้อเรื่องรวมถึงตอนจบไปต่าง ๆ นานา
3. กำหนดหน้า
4. แต่งบท
            เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนลงมือวาดสตอรี่บอร์ด ควรเขียนบทพูดและบทความคิดที่จะใช้เขียนลงในหนังออกมาโดยละเอียดเพื่อที่จะได้กำหนดขนาดของบอลลูนและจัดวางลงบนหน้ากระดาษได้อย่าเหมาะสม
5. ลงมือเขียน Story Board


ที่มา https://sites.google.com/site/pathumwilairoom1/kar-kheiyn-s-tx-ri-bxrd-storyboard

ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต

ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต
                ค่านิยมของวัยรุ่นหลายประการสามารถชักนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ เช่น พฤติกรรมนิยมมีแฟนในวัยเรียน พฤติกรรมที่วัยรุ่นเรียกว่า “กิ๊ก” ซึ่งวัยรุ่นยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับค่านิยมเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะมองดูทันสมัย แต่ถ้านำมาปฏิบัติจะนำพาชีวิตไปสู่ทางเสื่อมได้ง่าย ถ้าไม่รู้จักการปฏิบัติและวางตัวให้เหมาะสมกับวัย ซึ่งวัยรุ่นยังขาดประสบการณ์ที่เพียงพอในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพศที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

                ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตมีคุณค่า ในที่นี้จะนำเสนอค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต เพื่อที่จะได้พิจารณานำไปปฏิบัติ ดังนี้
               1. ค่านิยมรักนวลสงวนตัว เรื่องการปฏิบัติตนของเพศหญิงที่เรียกว่า การรักนวลสงวนตัว เป็นสิ่งที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล ซึ่งในปัจจุบันค่านิยมนี้ยังใช้ได้ดีอยู่ เพราะช่วยป้องกันภัยทางเพศได้ สังคมไทยยังถือเรื่องความบริสุทธิ์ของผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่า การปฏิบัติตนเพื่อรักนวลสงวนตัวนั้น ไม่ใช่ว่าตัดความสัมพันธ์ในการคบหาสมาคมกับเพื่อนชายโดยสิ้นเชิง แต่จะเน้นการสร้างสัมพันธภาพที่เหมาะสมต่อกัน เช่น วัยรุ่นหญิงไม่ควรเปิดโอกาสให้เพื่อนชายได้ใกล้ชิดมากจนเกินขอบเขต โดยปล่อยให้จับมือถือแขนโอบกอด ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้สังคมจะมองคุณค่าในตัวของเพศหญิงลดลง ดังนั้นผู้หญิงทุกคนควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะการวางตัวให้เหมาะสมกับวัยจะเป็นที่ชื่นชมของสังคมมากกว่า
               2. ค่านิยมการให้เกียรติและการวางตัว การให้เกียรติซึ่งกันและกันและการวางตัวที่เหมาะสมทางเพศ เป็นเรื่องที่วัยรุ่นควรศึกษาเรียนรู้ และนำมาปฏิบัติทั้งต่อเพื่อนเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามเพราะเป็นสิ่งที่สามารถยึดเหนี่ยวน้ำใจระหว่างเพื่อนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การให้เกียรติและการวางตัวที่ดีทางเพศนั้น ทั้งวัยรุ่นชายหญิงจะต้องแสดงออกต่อกันด้วยความจริงใจ เช่น วัยรุ่นชายควรใช้คำพูดที่สุภาพ ไม่พูดก้าวร้าว ดูหมิ่นศักดิ์ศรีเพื่อนหญิง ควรแสดงความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเพื่อนหญิง ไม่ฉวยโอกาสใกล้ชิดเพื่อนหญิงเพื่อจับมือถือแขน หรือลวนลามให้ได้รับความเสียหาย ต้องวางตัวในฐานะเพื่อนให้เพื่อนหญิงไว้ใจ อุ่นใจ ส่วนวัยรุ่นหญิงควรให้เกียรติเพื่อนชายเช่นกัน เช่น ใช้คำพูดที่สุภาพเรียบร้อย แสดงความมีน้ำใจ ไม่แต่งกายล่อแหลมเพื่อยั่วยวนเพื่อนชายด้วยการนุ่งน้อยห่มน้อยชิ้น ปฏิเสธการไปไหนด้วยกันสองต่อสองกับเพื่อนชาย ที่จะเป็นเหตุให้ตนเองไม่ปลอดภัยและสังคมมองไม่ดีได้ เป็นต้น
               3. ค่านิยมสร้างคุณค่าความดีงามในจิตใจ ความดีงามในจิตใจเป็นสิ่งมีคุณค่าเพราะเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปในสังคมยอมรับ วัยรุ่นในฐานะที่กำลังเป็นวัยเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพในอนาคต จึงควรสร้างโอกาสอันดีในการเรียนรู้ฝึกฝนอบรมตัวเองทางด้านจิตใจ ให้เจริญพัฒนาอย่างมีคุณค่าจนเป็นที่ยอมรับของสังคม

                การสร้างคุณค่าในตัวเองทางจิตใจนั้นสามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เช่น การยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยหลักทางศาสนาที่ตนนับถือ ซึ่งทุกศาสนาล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี วัยรุ่นจึงควรศึกษาทำความเข้าใจในศาสนาของตนเองว่า การปฏิบัติในเรื่องใดสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพชีวิตของตนเองได้ก็ให้นำมาปฏิบัติ ในเรื่องเพศก็เช่นกันเดียวกัน ศาสนาไม่มีข้อห้ามแต่ต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เพศ และวัยของตนเองไม่หมกมุ่นฟุ้งซ่านจนเกินขอบเขตก็จะช่วยสร้างชีวิตที่ดีในอนาคตได้


ที่มา http://www.vimanloy.com/lesson/lesson3_4.php

วัยรุ่น เปลี๊ยนไป

                                                                     วัยรุ่น เปลี๊ยนไป
 วัยรุ่นในปัจจุบัน มักจะกล้าคบเพื่อนต่างเพศกันมากขึ้น เพราะมักจะคิดว่าการคบเพื่อนเพศเดียวกันน่าเบื่อ เรื่องมาก ถ้าคบเพื่อนต่างเพศสบายใจกว่า ไม่เรื่องมาก และเป็นสิ่งโก้เก๋ ซึ่งความสัมพันธ์ของการคบกันระหว่าง ชาย – หญิง ในปัจจุบัน มักจะจบลงที่การมีเพศสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักกันแค่ระยะเวลาอันสั้น หรือคบกันมานานจนได้เวลาพิสูจน์ถึงความรักที่มีต่อกันแล้วก็ตาม
              สาเหตุที่วัยรุ่นเปลี่ยนแปลงไปจาก การรักนวลสงวนตัวในปัจจุบัน น่าจะมาจากปัจจัยทางสังคม
(อ้างอิงจาก วิทยา นาควัชระ, 2544) ดังนี้
        1. ชอบทดลอง
วัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้ – อยากเห็น ชอบทดลอง โดยปัจจุบันมีสิ่งยั่วยุต่างๆ ที่เป็นแรงผลักดันให้
วัยรุ่นแสดงออกถึงความต้องการมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แผ่นซีดีลามก หนังสือการ์ตูน อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความสนุกระหว่างร่วมเพศกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสิ่งต่างๆเหล่านี้ ก็หาซื้อได้ง่ายขึ้น และเป็นสิ่งกระตุ้นให้วัยรุ่นอยากมีเพศสัมพันธ์กันมากขึ้น ทั้งที่สังคมไทยในสมัยก่อน ไม่ค่อยจะยอมรับกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ แต่ในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว สำหรับสังคมไทย
        2. การออดอ้อน
ทนต่อแรงออดอ้อนของอีกฝ่ายไม่ไหว บางคนอาจจะอ้างมาเพื่อพิสูจน์รักแท้ที่มีต่อกันบ้าง หรือว่า
ถ้าไม่ยอมก็แสดงว่าไม่รักกันจริง ทำให้อีกฝ่าย (ซึ่งมักจะเป็นผู้หญิง) ทนต่อคำออดอ้อนของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ไหว หรือการออดอ้อนในเทศกาลต่างๆ เช่น พิสูจน์กันในเทศกาลแห่งความรัก “วันวาเลนไทน์” ซึ่งมีสถิติว่ามีคนหนุ่ม – สาว มีเพศสัมพันธ์กันมากในวันนี้ ถ้าสิ่งต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นในสังคมไทยสมัยก่อน ลูกสาวบ้านนั้นคงจะตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน และอับอายจนอาจจะต้องย้ายที่อยู่กันเลย แต่ในปัจจุบันเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กลับเป็นเรื่องของชายกับหญิงเท่านั้น เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เช่น การตั้งครรภ์ เรื่องถึงจะรู้ถึงผู้ใหญ่ให้ช่วยแก้ปัญหาให้
        3. แฟชั่น
การได้เสียกันในปัจจุบันถือว่าเป็นไปตามกระแสของแฟชั่น กล่าวคือ หากคนรักคู่ใดเป็นแฟนกัน
มานาน แล้วไม่มีอะไรกันถือว่าเชย หรือบางคู่ถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมตกเป็นของฝ่ายชาย ถึงขั้นเลิกกันก็มี เพราะหาว่าไม่รักกันจริง “คำก็อ้างว่าไม่รัก สองคำก็อ้างว่าไม่รัก สุดท้ายก็ยอมมันเสียเลย” แต่ถ้าเป็นสังคมไทยในสมัยก่อนชาย – หญิง หลายๆคู่ถูกผู้ใหญ่ติดต่อให้ จะเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ก็แต่งงานกันแล้ว หรือว่าประเพณี “การคลุมถุงชน” ที่ชาย – หญิง อาจจะไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกัน แต่ก็ต้องแต่งตามความเห็นของผู้หลักผู้ใหญ่
        4. ความรู้สึกเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน
การมีเพศสัมพันธ์กันนั้น เหมือนกับการได้สัมผัสเรือนร่างของอีกฝ่ายหนึ่ง ได้สัมผัสร่างกายของกัน
และกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างมีความรู้สึกว่าเป็นของกันและกัน โดยในสมัยก่อนนั้นชาย – หญิง จะถูกเนื้อต้องตัวกันได้ ก็ในคืนวันแต่งงาน หรือว่าบางคู่ ยังไม่มีฤกษ์เข้าหอ ฝ่ายชายก็ต้องรอจนกว่าจะมีฤกษ์ ถึงจะได้สัมผัสเนื้อตัวฝ่ายหญิง และหากแต่งงานกันแล้ว หากหญิงใดที่แอบปันใจ หรือไปมีอะไรกับชายอื่น ผู้หญิงคนนั้นก็จะถูก
ประนามและกล่าวว่ามี “ชู้” แต่ในสังคมปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์กับใคร ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ และยังสามารถไปมีอะไรกับคนอื่นได้อีก โดยไม่เกรงกลัวต่อการผิดหลักศีลธรรมเหมือนที่ผ่านมา
        5. ความรู้สึกว่าตนเองมีค่าต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
การรู้จักและคบหากันจนถึงขั้นที่เรียกว่า “แฟน” นั้น หลายคู่ใช้ระยะเวลาสั้น – ยาว ที่แตกต่างกัน
แต่แน่นอนว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของคู่รักจบลงที่การมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตนเป็นที่ต้องการหรือมีค่าสำหรับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยหญิงใดในสังคมไทยปัจจุบันที่สามารถรักษาพรหมจรรย์ ได้ถึงวันแต่งงาน ซึ่งนับวันจะมีน้อยลงทุกที ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก สังคมไทยปัจจุบันควรปลูกฝังให้หญิงไทยหันกลับมารักนวลสงวนตัว หวงแหนพรหมจรรย์ เอาไว้ถึงวันแต่งงานกันดีกว่า
        6. สัญชาตญาณของการสืบพันธุ์
การมีเพศสัมพันธ์ถ้าจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือว่าสัตว์ก็ตาม แต่อาจ
จะแตกต่างกันตรงที่สัตว์นั้นบางชนิดอาจจะเป็นช่วงฤดูกาลอยู่บ้าง แต่สำหรับมนุษย์เราแล้วนั้นไม่จำกัดเวลา (หรือบางคนอาจจะเพิ่มเติมต่อว่า “สถานที่”) ลงไปด้วย วัยรุ่นเมื่อถึงวัยจะมีแรงผลักดันจากฮอร์โมนภายในร่างกาย ให้แสดงออกถึงความต้องการของการมีเพศสัมพันธ์ โดยการแสดงออกของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป บางคนต้องการถึงขนาดไปข่มขืน หรือว่าเอาญาติพี่ – น้อง ด้วยกันเองก็มี อย่างที่เป็นข่าว ให้เห็นกันเกือบทุกวัน
จะเห็นได้ว่าหลายคู่รักที่เป็นแฟนกัน เช่น ตอนเรียนหนังสือ เมื่อต่างฝ่ายต่างเรียนจบกันไปแล้วนั้น น้อยคู่มากที่จะลงเอยกันด้วยการแต่งงาน ส่วนใหญ่จะแยกทางกันหลังจากเรียนจบ โดยอาจจะเป็นเพราะว่าต่างคนต่างกลับไปทำงานที่บ้าน หรือว่าพบคนใหม่ในที่ทำงานทำให้เกิดการเปลี่ยนใจ เพราะเห็นว่าของใหม่น่าตื่นเต้นมากกว่า ความสัมพันธ์ต่างๆเหล่านี้ ถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืน ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยของเราในปัจจุบัน การเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ หรือการสะสม “กิ๊ก” เป็นค่านิยมของวัยรุ่นที่เกิดขึ้น และหลายต่อหลายคู่ มักจะทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมา เช่น กรณีการตั้งครรภ์ การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ วัยรุ่นในสมัยปัจจุบันจึงควรหันกลับไปนำหลักศีลธรรม จรรยา มาใช้ในการดำเนินชีวิต ถึงเวลาแล้วที่วัยรุ่นทุกคนจะต้องปรับเปลี่ยน
พฤติกรรม ค่านิยมเรื่องเพศสัมพันธ์ ให้มีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
ที่มา  http://www.hu.ac.th/academic/article/100/Yungchang.htm

การศึกษาและค่านิยมของวัยรุ่น

การศึกษาและค่านิยมของวัยรุ่นในปัจจุบัน
วัยรุ่นหรือที่เรียกว่า “วัยแตกเนื้อหนุ่มสาว” เป็นช่วงรอยต่อระหว่างวัยเด็กตอนปลายและวัยรุ่นตอนต้น หมายถึง ช่วงเวลาที่อวัยวะสืบพันธุ์มีความพร้อมที่จะทำงานได้เต็มที่ ช่วงวัยรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงและมีพัฒนาการในด้านต่างๆ ซึ่งจะแสดงออกมาทั้งทางกาย ทางจิตใจ และทางสติปัญญา ดังนั้นในช่วงวัยรุ่นจึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการปลูกฝังการเรียนรู้และการปฏิบัติตนให้วัยรุ่นกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต
ปัจจุบันโลกของเราได้ให้ความสำคัญทางด้านการศึกษามากยิ่งขึ้น มีการส่งเสริมการศึกษาด้วยวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเรียนการสอนยุคปัจจุบัน จึงทำให้เกิดการแข่งขันมากยิ่งขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต วัยรุ่นก็เป็นกลุ่มบุคคลที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา เนื่องจากเป็นวัยแห่งการเรียนรู้ มีความอยากรู้อยากลอง ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของวัยรุ่น อาทิ Facebook Twitter MSN รวมไปถึงเว็บไซต์ที่ให้ความรู้ความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ ทำให้การศึกษาของวัยรุ่นเป็นการศึกษาควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่เปิดกว้างมากกว่าบทเรียนในตำรา สิ่งต่างๆบนโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่จะสมบูรณ์แบบและดีทุกด้าน เทคโนโลยีก็เช่นกันหากไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ย่อมส่งผลร้ายต่อผู้บริโภค วัยรุ่นหลายต่อหลายคนตกเป็นทาสของเทคโนโลยี บ้างติดเกม บ้างติด Facebook ติดโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น จึงทำให้วัยรุ่นเหล่านั้นขาดการแสวงหาความรู้เพื่อการศึกษา ผลการเรียนตกต่ำ บางคนติดเกมจนก้าวร้าวมีอารมณ์รุนแรง เพราะการเลียนแบบตัวละครในเกม สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นเพียงผลกระทบส่วนหนึ่งจากการใช้เทคโนโลยีอย่างไม่เหมาะสม ยังมีผลกระทบอีกมากมายที่เกิดจากเทคโนโลยี หากเราใช้เทคโนโลยีอย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป ตั้งตนอยู่บนทางสายกลาง จึงจะทำให้เราและเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน
วัยรุ่นในปัจจุบันมีการเลียนแบบการบริโภคนิยมมากขึ้น เนื่องจากสื่อทางโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต และจากหนังสือนิตยาสารต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อการแต่งกายของวัยรุ่น โดยเฉพาะการแต่งกายเลียนแบบดาราทั้งในละต่างประเทศ จึงทำให้ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยอันดีงามเริ่มจะถูกกลืนหายไป ปู่ย่าตายายผู้เฒ่าผู้แก่มักจะสอนเด็กๆว่า เราเป็นคนไทยต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ให้ถูกกาลเทศะ โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะต้องมีกิริยามารยาทนุ่มนวลอ่อนหวานแล้วยังจะต้องแต่งกายให้มิดชิด อย่าได้นุ่งน้อยห่มน้อย มันไม่งามตา เขาจะหาว่าเราไม่รักนวลสงวนตัว ซึ่งคนไทยในปัจจุบันได้หลงลืมความเป็นไทยที่มีมาแต่ช้านาน หลงรับเอาวัฒนธรรมต่างประเทศมาเป็นสิ่งยึดถือ วัยรุ่นส่วนใหญ่ในปัจจุบันนิยมนุ่งกางเกง หรือกระโปรงสั้น สวมเสื้อสายเดี่ยว เสื้อคอกว้าง ตามแบบสมัยนิยม ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อคอกว้างไปวัด นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนฉุดคิดขึ้นมาว่า เดี๋ยวนี้วัฒนธรรมอันดีงามของไทยกลายเป็นแบบนี้แล้วหรือ อีกทั้งวัดยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ช่วยชำระจิตใจของเราให้สะอาด บริสุทธิ์ และปราศจากกิเลส ทำไมเราถึงได้คล้อยตามไปกับค่านิยมจอมปลอมที่มีแต่จะทำให้วัฒนธรรมไทยของเราเลือนหายไปท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก เราควรหันกลับมาดูแลรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของเราไว้ให้ลูกหลานชื่นชม
พ่อขุนรามคำแหงทรงพระปรีชาชาญ ประดิษฐ์อักษรไทยไว้ครั้งโบราณกาลจนกลายเป็นเอกลักษณ์ไทยอันมีค่ายิ่ง แต่ค่านิยมทางด้านภาษาของวัยรุ่นในปัจจุบันกำลังจะทำให้ภาษาของชาติวิบัติ จากการใช้ภาษาของวัยรุ่นในการสื่อสารที่ไม่ถูกอักขระวิธี มีการใช้คำแปลกๆมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อสังคมไทย ผู้เขียนเป็นเพียงแค่คนไทยคนหนึ่งยังรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อยที่ภาษาไทยถูกนำมาใช้อย่างผิดวิธี แล้วผู้ประดิษฐ์อักษรไทยดังเช่นพ่อขุนรามคำแหง ท่านจะรู้สึกอย่างไรหากคนไทยกำลังทำลายเอกลักษณ์ของชาติที่บรรพบุรุษช่วยกันรักษามาช้านาน หากเราตระหนักถึงความเป็นไทย ความรักชาติ และช่วยกันรักษาเอกลักษณ์ของชาติไว้ ผู้เขียนเชื่อแน่ว่าภาษาไทยจะยังคงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
วัยรุ่นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองในอนาคต หากรู้จักศึกษาหาความรู้อย่างถูกวิธี มีค่านิยมทางความคิดที่เหมาะสม และรู้จักวิเคราะห์ พิจารณาข้อมูลข่าวสารต่างๆอย่างมีเหตุผล ก็จะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ในการผลักดันประเทศชาติให้เจริญมั่นคงและอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป

ที่มา https://non9279.wordpress.com/2012/04/25/article-edu-cult-popomalo

เด็กกับค่านิยมของวัตถุในปัจจุบัน

เด็กกับค่านิยมทางวัตถุในโลกยุคปัจจุบัน
พ่อแม่ส่วนมากอาจจะต้องพบเจอกับปัญหาการใช้จ่ายเงินที่ฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่ายในวัยรุ่นมากเป็นพิเศษ โดยมากเงินที่พวกเขาซื้อไปจะเป็นการซื้อของใช้ที่ไม่ค่อยมีความจำเป็น มีราคาแพง และเป็นสินค้าตามกระแสนิยมของสังคมเสียมากกว่า ทำให้ของเหล่านี้ถูกใช้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แล้วในที่สุดก็เกิดความเบื่อและซื้อหาของใหม่มาทดแทนอยู่เสมอพฤติกรรมเหล่านี้ที่เกิดขึ้นเราอาจจะพบเห็นได้ในเด็กเล็กอยู่บ้าง แต่จะไม่มีพฤติกรรมหนักหนาเท่ากับช่วงของวัยรุ่น เนื่องจากวันนี้มักจะชอบซื้อของที่มีราคาแพงเกินจำเป็น ไม่มีความคิดรอบครอบในการใช้เงินได้ดีเพียงพอ ส่งผลให้ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นผลกระทบต่อตัวเด็กและสังคมรอบข้างตามมา ซึ่งก็เป็นปัญหาในด้านค่านิยมทางด้านวัตถุ มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากตัวพ่อแม่เอง โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีฐานะ ใช้ของที่มีราคาแพง ไม่รู้จักการประหยัดหรือสอนลูกให้รู้จักการใช้เงินอย่างถูกต้อง เมื่อเด็กซึมซับเอาค่านิยมเหล่านี้ไว้ ก็ทำให้เกิดการเลียนแบบตามมา
วิธีแก้ปัญหาเด็กกับค่านิยมทางวัตถุ
การแก้ปัญหาควรเริ่มต้นจากตัวพ่อแม่ สำรวจตนเองว่าเป็นสาเหตุทำให้ลูกของตนมีพฤติกรรมไปในทางที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ จากนั้นควรแสดงตนเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้เงิน ไม่ซื้อของและใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความเป็นจริง ไม่ควรตามใจลูกมากจนเกินไป อย่างที่จะเห็นได้จากพ่อแม่ในยุคปัจจุบันที่ซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่เกินความจำเป็นสำหรับเด็ก อาทิเช่น เครื่องมือสื่อสารต่างๆ ซึ่งในความเป็นจริงสิ่งของเหล่านี้อาจจะไม่ได้จำเป็นมากมายสำหรับเด็กในวัยนี้เลยก็ได้ ซึ่งวิถีชีวิตที่เป็นไลฟ์สไตล์ตัวอย่างให้ลูกนั่นเห็นนั่นเองที่จะทำให้เป็นต้นแบบที่ดีแก่ลูกได้ หากพ่อแม่วางตัวในทางเหมาะสมในด้านของการใช้เงินอย่างพอเพียง ลูกก็ต้องซึมซับตามแน่นอนอยู่แล้ว
ส่วนในเรื่องของการใช้จ่ายเงิน หรือการให้เงินลูก ต้องพยายามฝึกสอนให้เด็กมีวินัยในการใช้ รู้จักการอดออม และเห็นคุณค่าของเงิน บอกสอนให้ลูกรู้ว่าหากต้องการสิ่งใดจะต้องทำงานหาเงินเพื่อนำเงินที่ได้มาซื้อของที่ตนเองต้องการด้วยความสามารถของตนเอง จะทำให้เด็กรู้ว่าเงินนั้นไม่ได้หามาได้ง่ายๆ จนอาจจะทำให้เด็กรู้สึกว่าของชิ้นนั้นไม่มีความจำเป็น ไม่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปกับการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย
ทั้งนี้ค่านิยมในเรื่องของวัตถุก็ยังคงเป็นส่วนที่ฝั่งแน่นอยู่ภายในวัฒนธรรมในสังคมของเราอย่างเหนียวแน่น ดังนั้นการที่เราสอนให้เด็กแยกแยะระหว่างสิ่งที่อยากได้กับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ได้ ก็จะช่วยให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีระเบียบวินัย และใช้จ่ายได้อย่างรอบคอบมากขึ้น


ที่มา  http://women.sanook.com/blog/6251/%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%96%E0%B8%B8/


วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความคิดเห็นที่เกี่ยวกับค่านิยมของวัยรุ่นสมัยนี้

ข้อความ 1
ปัจจุบันนี้เราจะพบว่าเด็กวัยรุ่นมีการใช้ชีวิตตามกระแสค่านิยมตะวันตกมาก การเที่ยวผับสถานบันเทิงตอนกลางคืน ดื่มเหล้า เสพยา การกินอยู่ด้วยกันตอนกำลังอยู่ในวัยเรียน การมีกิ๊ก ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด การมีกิ๊กนั้นถึงจะไม่ใช่แฟน แต่ก็ทำให้วัยรุ่นมีความจริงใจต่อกันน้อยลง แล้วการคบเพื่อนหรือมีแฟน เดี๋ยวนี้จะรู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งไม่เคยพบหน้ากัน อาจก่อให้เกิดคดีต่างๆขึ้นมามากมาย เช่น คดีฆ่าข่มขืน หลอกไปขาย หรือการทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่วิตกกังวลอย่างมากในสมัยนี้ เราควรที่จะดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาต่างๆตามมา
 โดย จิราพร(พี่บึก)6/1 [24 ม.ค. 2548 , 19:59:21 น.] ( IP = 203.150.217.119 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 2
ในสมัยปัจจุบันวัยรุ่นชอบทำตัวตามสมัยตามค่านิยมของต่างประเทศโดยไม่นึกคำนึงถึงวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทย เช่นการแต่งตัว นุ่งสั้น สายเดี่ยว แทนที่จะแต่งตัวให้เหมาะสมกับวัย ในเสื้อผ้าราคาที่ถูก ไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อน ใช้มือถือ ก็ใช้ตามยี่ห้อตามยุคพอรุ่นใหม่ๆออกมาก็เปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นๆ ซึ่งบางคนฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็ใช้จ่ายเกินตัว และภาระที่หนักนั้นก็มาตกอยู่ที่ผู้ปกครองของเรา ท่านทำงานหนักสายตัวแทบขาด กว่าจะได้เงินมา แต่ถูกลูกอย่างเรานำมาใช้ เพราะฉะนั้นเราควรจะร่วมมือกันใช้จ่ายแบบใหม่ และประหยัดเพื่อตบแทนพระคุณของผู้ปกครองเราด้วย
 โดย นภิษา(สมุย)6/1 [24 ม.ค. 2548 , 20:00:23 น.] ( IP = 203.150.217.119 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 3
ค่านิยมของวัยรุ่นเกิดจากกระบวนการขัดเกลาทางสังคม และการอบรมบ่มนิสัยภายในครอบครัว โดยวัยรุ่นจะกระทำในสิ่งที่พึงพอใจ และไม่กระทำในสิ่งที่ตนเองไม่พึงพอใจ พฤติกรรมการแสดงออกของวัยรุ่นจึงเกิดจากอิทธิพล ปัจจัยแวดล้อมในเรื่องความเป็นอิสระส่วนตัว การปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีการเคารพพ่อแม่ และอยู่ในโอวาทเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ค่านิยมที่วัยรุ่นยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ และการแสดงออกทางพฤติกรรมของตนเอง ได้แก่ การรู้จักควบคุมตนเองเห็นคุณค่าของค่านิยมดั้งเดิม เช่น การทำบุญประเพณี การไปวัด ไปโบสถ์และมัสยิด พฤติกรรมสนับสนุนเชิงสังคม และการแสดงความเชื่อมั่นด้านความยุติธรรม และความสงบสุข เชื่อมั่นในการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว เห็นคุณค่าความเป็นอิสระโดยการแสดงความสามารถที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมีเหตุผล
การพบวัยรุ่นใช้ชีวิตเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง ผับ ร้านนม และศูนย์การค้าซึ่งวัยรุ่นบางส่วนยอมรับว่าได้ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ เคยสูบบุหรี่ เคยทดลองยาเสพติด เคยมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเพื่อนต่างเพศ ซึ่งปัจจุบันนี้วัยรุ่นเห็นว่าเป็นเรื่องรรมดา ไม่น่าวิตก และการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เสพยาเสพติดนั้นอาจนำวัยรุ่นไปสู้ความล้มเหลวในชีวิตได้ การเกิดอุบัติเหตุเพราะเมาสุราก็มีให้เราเห็นเป็นประจำ การทำแท้ง โรคเอดส์ก็เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นโดยส่วนมาก ดังนั้นดิฉันอยากให้วัยรุ่นตระหนักถึงภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเราในอนาคตด้วย ดังนั้นวัยรุ่นควรคิดไตร่ตรองก่อนที่จะทำอะไร ซึ่งค่านิยมต่างๆถ้าไม่ดีก็ไม่ควรทำตามเอามาเป็นแบบอย่าง เพราะผลที่ได้รับนั้นจะเกิดกับตัวเรามากที่สุด 
 โดย นันทพร(เกียบ)6/1 [24 ม.ค. 2548 , 20:01:57 น.] ( IP = 203.150.217.119 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 4
วัยรุ่นสมัยนี้ ถ้าพูดไปแล้วเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยก่อนก็มาก ค่านิยมของวัยรุ่นไทยเท่าที่เห็นกันในปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นค่านิยม มาจากบ้านเราแต่เก่าก่อนเลยแต่ค่านิยมต่างๆมาจากต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ที่ออกมาโชว์ขา โชว์อกโชว์แผ่นหลัง โชว์สารพัดจะโชว์กัน แถมยังแต่งตัวแข่งกันทำตัวตามแฟชั่นเกินเหตุ หรือจะเป็นการใช้ของที่เกินตัว เช่นของที่ใช้ต้องมียี่ห้อ จากต่างประเทศ ถ้าเป็นของไทย ฉันไม่ใช้เชยไปไม่อินเทรน มือถือก็ต้องเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ๆ อับเดทให้ไม่น้อยหน้าคนอื่น
ค่านิยมเหล่านี้ส่วนมากก็คงมาจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร ดารา โฆษณารายการโทรทัศน์ วิทยุ ดารา นักแสดง นักร้องก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นต้นแบบ ให้วัยรุ่นเพราะวัยรุ่นบางคนจะทำตามดาราที่เขาชื่นชอบ โดยเฉพาะวัยรุ่นไทยที่ชื่นชอบดาราต่างประเทศ เช่นพวกดาราญี่ปุ่น เกาหลี เราจะเห็นกันมากเลยเดี๋ยวนี้ การแต่งตัวจะออกแนวญี่ปุ่นกัน การฟังเพลงก็เหมือนกัน เพลงสากล เพลงสตริง ฟังกันได้ แต่ลูกทุ่งลูกกรุงทำเป็นฟังกันไม่ได้ แต่ทุกอย่างที่ได้กล่าวมามันไม่ได้เป็นค่านิยมของวัยรุ่นไทยทั้งหมด แต่มันเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นเอง
ดิฉันคิดว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับวัยรุ่นเอง ที่จะต้องรู้จักคิดว่าสิ่งไหนที่ดีกับตัวเราก็รับเข้ามาและปฏิบัติตาม ส่วนไหนที่รับมาแล้วเกินความสามารถที่สังคมไทยจะรับได้ก็อย่ารับมากันเลย 
 โดย วรรณวิภา(แม่)6/1 [24 ม.ค. 2548 , 20:03:17 น.] ( IP = 203.150.217.119 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 5
ดิฉันคิดว่าวัยรุ่นไทยสมัยนี้ชอบตามกระแสค่านิยมใหม่เสมอ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุต้องรบกวนเงินผู้ปกครองโดยใช่เหตุต้องรบกวนเงินผู้ปกครองเพราะเราเองยังทำงานไม่ได้
การแต่งกายที่ตามกระแสแฟชั่น ที่ต้องมียี่ห้อของที่แพง นอกจากจะสิ้นเปลืองแล้วยังเป็นที่ล่อตาล่อใจแก่พวกมิจฉาชีพด้วย
ดังนั้นดิฉันก็อยากฝากเพื่อนๆว่าให้ประหยัดกันมากขึ้นนะคะ เราใช้ของราคาถูก ไม่มีเหมือนอย่างคนอื่น ก็ใช่ว่านั่นจะเป็นเครื่องวัดว่าเราเป็นเป็นคนดีหรือคนเลวซะหน่อยจะให้คนอื่นมองเราว่าเป็นคนดีนั้น เราต้องทำดี และที่สำคัญมันต้องมาจากใจจริง 
 โดย มัทนา(มืดมหาเสน่ห์) [24 ม.ค. 2548 , 20:04:50 น.] ( IP = 203.150.217.114 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 6
ดิฉันคิดว่าที่วัยรุ่นไทยมีค่านิยมที่ผิดๆเช่นนี้เพราะ ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เจริญก้าวหน้าไปมาก ทั้งยังได้รับอิทธิพลในด้านต่างๆมาจากหลายๆประเทศด้วย ทำให้วัยรุ่นไทยลุ่มหลงไปกับสิ่งเหล่านี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ โทรศัพท์ ที่มีมากมายหลายยี่ห้อให้เลือก มีทั้งความสวยงามและลูกเล่นต่างๆมากมาย ทำให้เป็นที่ล่อตาล่อใจแก่พวกวัยรุ่นที่ติดกับกระแสนิยมยิ่งนัก เพราะคิดว่าเป็นของที่หรูหรา โก้เก๋ เป็นตัววัดความทันสมัย ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลย ซ้ำยังเป็นการสิ้นเปลืองเงินทองโดยเปล่าประโยชน์ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องการแต่งกายที่ชอบนุ่งน้อยห่มน้อย ดิฉันคิดว่าเยาวชนเหล่านี้คงจะได้รับค่านิยมมาจากต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่นที่เป็นประเทศนำแฟชั่น มักออกแบบเสื้อผ้าแปลกๆ และดูไม่เรียบร้อยด้วย
หากวัยรุ่นไทยยังยึดติดกับค่านิยมที่ผิดๆเหล่านี้ต่อไป ดิฉันคิดว่าต่อไปในอนาคตประเทศไทยคงต้องขาดประชาชนที่มีคุณภาพแน่นอน 
 โดย ปองทิพย์(ปากพิฆาต) [24 ม.ค. 2548 , 20:09:17 น.] ( IP = 203.150.217.114 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 7

ปัจจุบันนี้มักพบวัยรุ่นใช้ชีวิตเที่ยวเตร่ตามสถานบันเทิง ผับ ร้านนม และศูนย์การค้าซึ่งวัยรุ่นบางส่วนยอมรับว่าได้ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ เคยสูบบุหรี่ เคยทดลองยาเสพติด เคยมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเพื่อนต่างเพศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด วัยรุ่นมักทำตามค่านิยมต่างๆเช่นวิ่งตามแฟชั่น แต่งตัวไม่เหมาะสม ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นค่านิยมที่ผิดๆของวัยรุ่น แต่วัยรุ่นไม่คิดแบบนั้น คิดว่ามันเป็นค่านิยมที่โก้เก๋ แต่จริงๆแล้วอะไรที่มันมากเกินไปก็ก่อให้กฺดอันตรายได้เหมือนกัน คิดว่าวัยรุ่นน่าจะมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ ไม่ต้องวิ่งตามแฟชั่น ตั้งใจเรียนให้จบ อาจจะตามแฟชั่นบ้างแต่ก็อยู่ในภาวะที่พอสมควรละกัน อย่าให้อะไรมันมากเกินไป เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่บ้างเพราะถึงยังไงเค้าก็เคยเป็นเด็กมาก่อน 
 โดย ประกายเพชร [24 ม.ค. 2548 , 20:11:47 น.] ( IP = 203.150.217.114 : : 203.113.37.13 )

ข้อความ 8
ดิฉันคิดว่าวัยรุ่นในปัจจุบันมีค่านิยมที่ผิดๆ เลียนแบบชาวตะวันตกมากเกินไปทั้งเรื่องการแต่งกายตามแฟชั่นที่วัยรุ่นสมัยนี้โดยฉพาะผู้หญิงที่ออกมาแต่งการโชว์เนื้นหนังกันมากขึ้นใส่ทั้งเกาะอก สายเดี่ยวรวมไปถึงการใช้เครื่องอำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง เช่น โทรศัพย์มือถือ พอเห็นเพื่อนมีก็อยากมีตามเป็นการสิ้นเปลืองเงินพ่อแม่โดยใช่เหตุ และค่านิยมอีกอย่างหนึ่งของวัยรุ่น คือ การไปเที่ยวตามสถานที่บันเทิงเช่น ผับ และศูนย์การค้า
 โดย น.ส ขวัญฤทัย ปินใจ [1 ก.พ. 2548 , 13:04:17 น.] ( IP = 202.143.177.190 : : )

ข้อความ 9
ผมคิดว่าวัยรุ่นไทยสมัยนี้เข้าผับ กินเหล้านั้นเพราะขาดการอบรมณ์ที่ดีจากครูและผู้ปกครองและถ้าได้รับการอบรมณ์ที่ดีแล้วผมว่าเด็กวัยรุ่นก็จะเป็นเด็กที่ดีได้แน่
โดย ด.ช.สรณ วัชรวรธรรม - คำอธิบาย: https://blogger.googleusercontent.com/img/proxy/AVvXsEg3fyAvqTBlEmn4rwBJ1UXkEmz-sl-EY6x248C5lOnnAMSP0KED0A_xAovWiuH1BY1wMYPQCadtpJJKZSGugMIqH7a-tnmQJdRVRfh3LVaKaaBiotQL_ME8SV51CJUvT9B8-9jrE8pLzG7aF1CEjv0= [1 ก.พ. 2548 , 13:07:21 น.] ( IP = 202.143.177.190 : : 

ข้อความ 10
บางคนคิดแต่ในทางที่เสียหายของเด็กวัยรุ่นใครจะรู้ว่าวัยรุ่นไทยคิดอย่างไรนอกจากวัยรุ่นเองมันก็จริงอยู่สำหรับค่านิยมที่ผิดๆแต่เด็กดีก็มีอยู่ถมไป
โดย ชลันดา [21 ส.ค. 2549 , 20:49:29 น.] ( IP = 203.172.122.16 : : )



ที่มา : http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=pintong&topic=17