วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ (Research and Knowledge Formation)

ชื่อ น.ส.ลิลาวรรณ สกุล สุขโข  เลขที่ 28 ห้อง ม.5/10
กลุ่มที่ 2
ปัญหาที่นักเรียนศึกษา ค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่น

ที่มาและความสำคัญของปัญหา

 ปัจจุบันเยาวชนอยู่ในสังคมที่เน้นเชิงทุนนิยมและวัตถุนิยมมากขึ้น ทำให้สุขภาพจิตแย่ลง ขณะเดียวกันสังคมรากฐาน คือ ครอบครัว ซึ่งเป็นสังคมหน่วยเล็กที่สุด ก็พบว่ามีปัญหามากขึ้น เพราะพ่อ แม่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก เครียดกับการเรียนของลูกและการสอบแข่งขันต่างๆ ทำให้วัยรุ่นมีค่านิยมที่ผิดในทางด้านต่างๆมากมาย จึงขาดการอบรมที่ดี มีความเชื่อและหลงไปตามกับค่านิยมที่ผิดเพราะไม่ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ดีพอ
             ดังนั้นดิฉันจึงได้สำรวจ  รวบรวมข้อมูล   และนำเสนอผ่านสื่อด้วยหนังสั้นแฝงแนวคิดและช่วยปลูกจิตสำนึก  เพื่อช่วยให้วัยรุ่นมีความรู้และเข้าใจในค่านิยมของสังคมมากขึ้น

วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาปัญหา ค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่น
2.เพื่อเรียนรู้วิธีการสร้างภาพยนต์สั้น/สารคดี

ผลการศึกษา 
   ค่านิยมที่ผิดของวัยรุ่นสมัยนี้ มีส่วนเกิดมาจากการเลี้ยงลูกของพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว และให้สื่อต่างๆเข้ามามีอิทธิพลต่อตัวลูก ลูกจึงมีค่านิยมที่เลียนแบบดาราหรือผู้ที่มีอิทธิพลในสื่อเช่นการแต่งตัว การใช้ของแบรนด์เนม การทานยาเสริมความงาม ใช้สารเสพติด การมีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัยอันควร ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากดาราก็ได้รับการยอมรับจากสังคมสูงๆ
   กลุ่มของดิฉันได้นำเสนอปัญหาเหล่านี้ผ่านทางภาพยนตร์สั้นเพราะภาพยนตร์สั้นคือการเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียงที่มีประเด็นเดียวสั้น ๆ แต่ได้ใจความที่แฝงแง่คิด แง่มุม ทำให้ดูว่าไม่น่าเบื่อเกินไป  สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ทุนสูง 

เสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบด้วยองค์ความรู้จากการค้นพบ
-พ่อแม่ควรเลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว 
-กล้าที่จะสอนลูกเช่นการมีเพศสัมพันธ์ว่าคืออะไร หากมีไปแล้วเกิดอะไรตามมา และควรป้องกันอย่างไร ไม่ควรอายที่สอนเรื่องแบบนี้ให้แก่ลูก 
-อย่าไปขัดขวางความคิดของลูกเพราะจะทำให้ลูฏไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ ทำให้ลูกอยากรู้อยากลองด้วยตนเอง  
-สื่อควรนำเสนอค่านิยมที่ถูกต้องหรือนำเสนอผลกระทบที่เกิดขึ้นหากทำตัวแบบค่านิยมที่ผิดเช่นการโดนข่มขืนจากการแต่งตัวโป๊  การท้องในวัยเรียนจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในวัยเรียน เพื่อในวัยรุ่นหรือวัยเด็กดูแล้วคิดขึ้นได้ว่าถ้าทำตัวแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น

นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเรียนวิชา IS1
-การทำงานกลุ่มอย่างเป็นระบบ
-การสร้างแบบสอบถามออนไลน์เพื่อสะดวกต่อการจัดเก็บ ประมวลผล และการนำเสนอ
-การใช้โปรแกรมต่างๆของGoogleเช่นไดร์ฟที่ใช้ในการจัดเก็บงาน  DocในGoogleที่สามรถแก้ไขเอกสารแบบออนไลน์ แชร์ในคนอื่นสามารถดูได้ หรือแชร์ในคนในกลุ่มแก้ไขงานได้โดยไม่ต้องใช้แฟลชไดร์ฟ
-การทำเว็บบล็อกให้สามารถไปหน้าของคนในกลุ่ม การใส่บทความ หรือเพิ่มลิงก์ไว้ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาอ่านได้อย่างเป็นหมวดหมู่
-มุมกล้องที่ใช้ในการถ่ายทำหนังสั้น
-การใช้โปรแกรมตัดต่อหนังสั้น
-การเขียนบทถ่ายทำให้ง่ายต่อการถ่ายและการตัดต่อ

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ตัวอย่างหนังสั้น ค่านิยมของวัยรุ่น



ตัวอย่างการเขียน STORY BOARD


ตัวอย่างหนังสั้นค่านิยมของวัยรุ่น


ตัวอย่างการเขียน STORY BOARD







การเขียน STORY BOARD


การเขียนสตอรี่บอร์ด (Storyboard)
                 ความหมายของสตอรี่บอร์ด (Story Board)
               สตอรี่บอร์ด (Story Board) คือ การเขียนกรอบแสดงเรื่องราวที่สมบูรณ์ของภาพยนตร์หรือหนังแต่ละเรื่อง โดยมีการแสดงรายละเอียดที่จะปรากฏในแต่ละฉากหรือแต่ละหน้าจอ เช่น ข้อความ ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียงดนตรี เสียงพูดและแต่ละอย่างนั้นมีลำดับของการปรากฏว่าอะไรจะปรากฏขึ้นก่อน-หลัง อะไรจะปรากฏพร้อมกัน เป็นการออกแบบอย่างละเอียดในแต่ละหน้าจอก่อนที่จะลงมือสร้างเอนิเมชันหรือ หนังขึ้นมาจริงๆ
• Storyboard คือ การสร้างภาพให้เห็นลำดับขั้นตอนตามเนื้อเรื่องที่ต้องการ โดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหว
• รายละเอียดที่ควรมีใน Storyboard ได้แก่ คำอธิบายแต่ละสื่อที่ใช้ (ข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง วีดิโอ)
หลักการเขียนสตอรี่บอร์ด
          รูปแบบของสตอรี่บอร์ด จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนภาพกับส่วนเสียง โดยปกติการเขียนสตอรี่บอร์ด ก็จะวาดภาพในกรอบสี่เหลี่ยม ต่อด้วยการเขียนบทบรรยายภาพหรือบทการสนทนา และส่วนสุดท้ายคือการใส่เสียงซึ่งอาจจะประกอบด้วยเสียงสนทนา เสียงบรรเลง และเสียงประกอบต่างๆ

สิ่งสำคัญที่อยู่ภายในสตอรี่บอร์ด ประกอบด้วย
- ตัวละครหรือฉาก ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่หรือตัวการ์ตูน และที่สำคัญ คือ พวกเขากำลังเคลื่อนไหวอย่างไร
- มุมกล้อง ทั้งในเรื่องของขนาดภาพ มุมภาพและการเคลื่อนกล้อง
- เสียงการพูดกันระหว่างตัวละคร  มีเสียงประกอบหรือเสียงดนตรีอย่างไร

ข้อดีของการทำ Story Board
1. ช่วยให้เนื้อเรื่องลื่นไหล เพราะได้อ่านทวนตั้งแต่ต้นจนจบก่อนจะลงมือวาดจริง
2. ช่วยให้เนื้อเรื่องไม่ออกทะเล เพราะมีแผนการวาดกำกับไว้หมดแล้ว
                        3. ช่วยกะปริมาณบทพูดให้พอดีและเหมาะสมกับหน้ากระดาษและบอลลูนนั้น ๆ
                        4. ช่วยให้สามารถวาดจบได้ในจำนวนหน้าที่กำหนด (สำคัญสุด!)


ขั้นตอนการทำ Story Board
1.วางโครงเรื่องหลัก ไม่ว่าจะเป็น Theme, ตัวละครหลัก, ฉาก ฯลฯ
    1.1  แนวเรื่อง
    1.2  ฉาก
    1.3  เนื้อเรื่องย่อ
    1.4  Theme/แก่น (ข้อคิด/สิ่งที่ต้องการจะสื่อ)
    1.5  ตัวละคร  สิ่งสำคัญคือกำหนดรูปลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัวให้โดดเด่นไม่คล้ายกันจนเกิน ไป ควรออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครให้โดดเด่นแตกต่างกัน และมองแล้วสามารถสื่อถึงลักษณะนิสัยของตัวละครได้ทันที
 2.  ลำดับเหตุการณ์คร่าว ๆ
จุดสำคัญคือ ทุกเหตุการณ์จะเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน เหตุการณ์ก่อนหน้าจะทำให้เหตุการณ์ต่อมามีน้ำหนักมากขึ้น และต้องหา จุด Climax ของเรื่องให้ได้ จุดนี้จะเป็นจุดที่น่าตื่นเต้นที่สุดก่อนที่จะเฉลยปมทุกอย่างในเรื่อง การสร้างปมให้ผู้อ่านสงสัยก็เป็นจุดสำคัญในการสร้างเรื่อง ปมจะทำให้ผู้อ่านเกิดคำถามในใจและคาดเดาเนื้อเรื่องรวมถึงตอนจบไปต่าง ๆ นานา
3. กำหนดหน้า
4. แต่งบท
            เป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนลงมือวาดสตอรี่บอร์ด ควรเขียนบทพูดและบทความคิดที่จะใช้เขียนลงในหนังออกมาโดยละเอียดเพื่อที่จะได้กำหนดขนาดของบอลลูนและจัดวางลงบนหน้ากระดาษได้อย่าเหมาะสม
5. ลงมือเขียน Story Board


ที่มา https://sites.google.com/site/pathumwilairoom1/kar-kheiyn-s-tx-ri-bxrd-storyboard

ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต

ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต
                ค่านิยมของวัยรุ่นหลายประการสามารถชักนำไปสู่พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ เช่น พฤติกรรมนิยมมีแฟนในวัยเรียน พฤติกรรมที่วัยรุ่นเรียกว่า “กิ๊ก” ซึ่งวัยรุ่นยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับค่านิยมเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าจะมองดูทันสมัย แต่ถ้านำมาปฏิบัติจะนำพาชีวิตไปสู่ทางเสื่อมได้ง่าย ถ้าไม่รู้จักการปฏิบัติและวางตัวให้เหมาะสมกับวัย ซึ่งวัยรุ่นยังขาดประสบการณ์ที่เพียงพอในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพศที่ต้องเรียนรู้อีกมาก

                ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตมีคุณค่า ในที่นี้จะนำเสนอค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิต เพื่อที่จะได้พิจารณานำไปปฏิบัติ ดังนี้
               1. ค่านิยมรักนวลสงวนตัว เรื่องการปฏิบัติตนของเพศหญิงที่เรียกว่า การรักนวลสงวนตัว เป็นสิ่งที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล ซึ่งในปัจจุบันค่านิยมนี้ยังใช้ได้ดีอยู่ เพราะช่วยป้องกันภัยทางเพศได้ สังคมไทยยังถือเรื่องความบริสุทธิ์ของผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่า การปฏิบัติตนเพื่อรักนวลสงวนตัวนั้น ไม่ใช่ว่าตัดความสัมพันธ์ในการคบหาสมาคมกับเพื่อนชายโดยสิ้นเชิง แต่จะเน้นการสร้างสัมพันธภาพที่เหมาะสมต่อกัน เช่น วัยรุ่นหญิงไม่ควรเปิดโอกาสให้เพื่อนชายได้ใกล้ชิดมากจนเกินขอบเขต โดยปล่อยให้จับมือถือแขนโอบกอด ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้สังคมจะมองคุณค่าในตัวของเพศหญิงลดลง ดังนั้นผู้หญิงทุกคนควรไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะการวางตัวให้เหมาะสมกับวัยจะเป็นที่ชื่นชมของสังคมมากกว่า
               2. ค่านิยมการให้เกียรติและการวางตัว การให้เกียรติซึ่งกันและกันและการวางตัวที่เหมาะสมทางเพศ เป็นเรื่องที่วัยรุ่นควรศึกษาเรียนรู้ และนำมาปฏิบัติทั้งต่อเพื่อนเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามเพราะเป็นสิ่งที่สามารถยึดเหนี่ยวน้ำใจระหว่างเพื่อนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การให้เกียรติและการวางตัวที่ดีทางเพศนั้น ทั้งวัยรุ่นชายหญิงจะต้องแสดงออกต่อกันด้วยความจริงใจ เช่น วัยรุ่นชายควรใช้คำพูดที่สุภาพ ไม่พูดก้าวร้าว ดูหมิ่นศักดิ์ศรีเพื่อนหญิง ควรแสดงความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเพื่อนหญิง ไม่ฉวยโอกาสใกล้ชิดเพื่อนหญิงเพื่อจับมือถือแขน หรือลวนลามให้ได้รับความเสียหาย ต้องวางตัวในฐานะเพื่อนให้เพื่อนหญิงไว้ใจ อุ่นใจ ส่วนวัยรุ่นหญิงควรให้เกียรติเพื่อนชายเช่นกัน เช่น ใช้คำพูดที่สุภาพเรียบร้อย แสดงความมีน้ำใจ ไม่แต่งกายล่อแหลมเพื่อยั่วยวนเพื่อนชายด้วยการนุ่งน้อยห่มน้อยชิ้น ปฏิเสธการไปไหนด้วยกันสองต่อสองกับเพื่อนชาย ที่จะเป็นเหตุให้ตนเองไม่ปลอดภัยและสังคมมองไม่ดีได้ เป็นต้น
               3. ค่านิยมสร้างคุณค่าความดีงามในจิตใจ ความดีงามในจิตใจเป็นสิ่งมีคุณค่าเพราะเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปในสังคมยอมรับ วัยรุ่นในฐานะที่กำลังเป็นวัยเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพในอนาคต จึงควรสร้างโอกาสอันดีในการเรียนรู้ฝึกฝนอบรมตัวเองทางด้านจิตใจ ให้เจริญพัฒนาอย่างมีคุณค่าจนเป็นที่ยอมรับของสังคม

                การสร้างคุณค่าในตัวเองทางจิตใจนั้นสามารถปฏิบัติได้หลายวิธี เช่น การยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยหลักทางศาสนาที่ตนนับถือ ซึ่งทุกศาสนาล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี วัยรุ่นจึงควรศึกษาทำความเข้าใจในศาสนาของตนเองว่า การปฏิบัติในเรื่องใดสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสภาพชีวิตของตนเองได้ก็ให้นำมาปฏิบัติ ในเรื่องเพศก็เช่นกันเดียวกัน ศาสนาไม่มีข้อห้ามแต่ต้องปฏิบัติให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เพศ และวัยของตนเองไม่หมกมุ่นฟุ้งซ่านจนเกินขอบเขตก็จะช่วยสร้างชีวิตที่ดีในอนาคตได้


ที่มา http://www.vimanloy.com/lesson/lesson3_4.php